CeeFanClub.com: SOC บนวินโดว์, Surface 2.0, เมาส์มัลติทัส สามสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากไมโครซอฟท์ในปีนี้ - CeeFanClub.com

Jump to content

Page 1 of 1
  • You cannot start a new topic
  • You cannot reply to this topic

SOC บนวินโดว์, Surface 2.0, เมาส์มัลติทัส สามสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากไมโครซอฟท์ในปีนี้

#1 User is offline   hs9ylb 

  • Advanced Member
  • Icon
  • Group: Members
  • Posts: 250
  • Joined: 28-September 10
  • LocationSongkhla , Thailand

Posted 14 January 2011 - 07:47 AM


Posted Image Posted Image

ถือเป็นอีกหนึ่งค่ายผู้ผลิตซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคและสื่อมวลชนในงาน CES 2011 ค่อนข้างมาก โดยในปีนี้ทางไมโครซอฟท์ได้ตั้งเป้าเปิดตัวเทคโนโลยีไปที่กล้อง Kinect สำหรับ XBOX360 เสียมากกว่า แต่ถึงอย่างไรในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์พีซีทางไมโครซอฟท์ก็มีไม้เด็ดล้มคู่แข่งมานำเสนอในงานถึง 3 อย่างด้วยกัน แต่จะเป็นอะไรนั้น ลองติดตามกันต่อได้เลยนะคะ


**วินโดว์ตัวต่อไปถูกโฟกัสไปที่ SoC**

ในขณะที่วินโดว์ 7 กำลังทำยอดขายกอบกู้หน้าให้ไมโครซอฟท์อยู่ในปัจจุบัน ภายในงาน CES 2011 ทางไมโครซอฟท์ก็ได้เปิดตัววินโดว์ตัวต่อไปที่ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ โดยนาย Steven Sinofsky ประธานกลุ่ม
Microsoft Windows และ Windows Live ประกาศว่า สำหรับวินโดว์ตัวต่อไปของทางไมโครซอฟท์จะถูกออกแบบมาให้รองรับกับสถาปัตยกรรม x86 ประเภท System on a Chip (SoC) โดยตอนนี้มีแบรนด์ผู้ผลิตซีพียูหลายราย ได้แก่ ARM ที่มาพร้อมพาร์ทเนอร์อย่าง NVIDIA ใน Project Denver, Qualcomm Inc.Texas Instruments Inc. หรือแม้กระทั่ง Intel กำลังให้ความสนใจอย่างมาก

อีกทั้งนาย Steven Sinofsky กล่าวต่อว่า ในวินโดว์ตัวต่อไปทางไมโครซอฟท์ยังพยายามเน้นจุดโฟกัสไปที่สถาปัตยกรรมอนาคตอย่าง SoC ที่จะมีจุดเด่นอยู่ที่ขนาดที่เล็กลง ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าในส่วนของประสิทธิภาพย่อมสูงขึ้น (รองรับ HD Content, 3D, 3D Games) ซึ่ง SoC น่าจะถูกใช้อย่างแพร่หลายในแท็บเล็ตหรือ All in One PC อย่างมาก โดยคุณสมบัติของวินโดว์ตัวต่อไปจะเน้นไปที่การใช้ฮาร์ดแวร์เร่งประสิทธิภาพผ่านสถาปัตยกรรม SoC มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น Web Browser หรือ Media Player ต่างๆ

**Surface 2.0 (Samsung SUR40 for Microsoft Surface) ขนาดเล็กลง ประสิทธิภาพสูงขึ้น**

Surface เวอร์ชั่นแรกเมืองไทยยังไม่มีให้เห็น ตอนนี้ไมโครซอฟท์ก็ประกาศเปิดตัว Surface รุ่น 2.0 ต่อแล้วในงาน CES 2011 โดย Surface 2.0 จะเป็นการร่วมกันพัฒนาระหว่างไมโครซอฟท์และซัมซุง โดยในรุ่น 2.0 จะมาพร้อมหน้าจอ Gorilla Glass 40 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080p 16:9 พร้อมซอฟท์แวร์
Microsoft Surface และที่สำคัญคือไมโครซอฟท์พัฒนาระบบ PixelSense ให้สามารถจับวัตถุและนิ้วมือได้ถึง 50 จุดในเวลาเดียวกัน โดยระบบดังกล่าวช่วยในเรื่องความแม่นยำที่สูงกว่าในรุ่นก่อนหน้าอย่างมาก

สำหรับในส่วนของคุณสมบัติอื่นๆ Surface 2.0 ใช้ซีพียูและกราฟิกชิปจาก AMD ในรุ่น Athlon II X2 Dual Core ความเร็ว 2.9GHz และกราฟิกชิป Radeon HD 6700M ซึ่งรองรับชุดคำสั่งกราฟิก DirectX 11

สุดท้ายในส่วนของการทำตลาด Surface 2.0 จะเริ่มเข้าทำตลาดใน 23 ประเทศในปลายปี 2011 โดยบริษัทที่ให้ความสนใจกับ Surface 2.0 ประกอบด้วย Dassault Aviation, Fujifilm Corp., Red Bull GmbH, Royal Bank of Canada และ Sheraton Hotels & Resorts Worldwide Inc.

**เมาส์มัลติทัชตัวใหม่จากไมโครซอฟท์กำลังจะเป็นจริง**

วิดีโอแสดงต้นแบบของเมาส์มัลติทัชตัวใหม่จากไมโครซอฟท์ในโครงการ Mouse 2.0
จากโครงการ Mouse 2.0 ของไมโครซอฟท์ ล่าสุดในงาน CES 2011 ทางไมโครซอฟท์นำโดยนาย Mark Relph ผู้นวยการอาวุโสกลุ่ม Windows Developer and Ecosystem Team จากไมโครซอฟท์กล่าวว่า ตอนนี้ทางทีมผู้พัฒนากำลังเร่งพัฒนาเมาส์มัลติทัชตัวใหม่ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าทางทีมงานต้องการให้เมาส์ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง วินโดว์ 7 ให้สามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมขึ้น

ในส่วนของการใช้งานแบบมัลติทัช นาย Mark Relph กล่าวเสริมว่า นอกจากระบบ Point & Click เหมือนเมาส์ทั่วไปแล้วทางไมโครซอฟท์จะบรรจุระบบมัลติทัชพ่วงลงไปด้วย อย่างการนำนิ้วหนึ่งนิ้วมาสัมผัสที่ตัวเมาส์จะเป็นการสั่งงานให้ระบบเลื่อนสกอร์, แพนหน้ากระดาษหรือซูมหน้ากระดาษ หรือใช้สองนิ้วสัมผัสเพื่อย่อ-ขยายหน้าต่าง เป็นต้น

ด้านราคาทางไมโครซอฟท์ตั้งไว้ที่ประมาณ 79.95 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,400-2,500 บาท)ด้านการเชื่อมต่อจะเป็นแบบไร้สายผ่าน Nano transceiver และสุดท้ายวันเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะอยู่ในช่วง มิถุนายน 2011

**ตัวเลขชี้เป็นชี้ตาย**

Steve Ballmer ผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์รายงานตัวเลขชี้เป็นชี้ตาย ยอดขายของสินค้าแบรนด์ไมโครซอฟท์ในปี 2010 ที่ผ่านมา ในงาน CES 2011 ว่า ในปี 2010 ที่ผ่าน ไมโครซอฟท์เองพอใจกับยอดขายของซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฮาร์ดแวร์ในส่วนของเกมมิ่งอย่าง Xbox และ Kinect ที่สามารถทำยอดขายทะลุ 8 ล้านเครื่องใน 60 วันได้อย่างน่าพอใจ และในส่วนของซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัตการณ์อย่าง วินโดว์ 7 ทาง Ballmer ก็กล่าวแสดงความพอใจในเรื่องยอดขายอย่างมาก เพราะสามารถจำหน่ายระบบปฏิบัตการณ์ดังกล่าวได้ถึง 7 กล่องต่อวินาที

สำหรับตัวเลขอื่นๆ อย่าง วินโดว์โฟน 7 ก็เปิดตัวด้วยยอดขาย 1.5 ล้านเครื่องในหนึ่งสัปดาห์ แม้จะถือเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมากแต่เมื่อมองถึงอนาคตแล้ว Ballmer มองว่าตัวเลขยอดขายจะโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมองได้จากส่วนของผู้พัฒนาซอฟท์แวร์บนวินโดว์ โฟน 7 ในปัจจุบันที่มีเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ราย อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดใน วินโดว์ โฟน 7 มาร์เก็ต เพิ่มขึ้นเป็น 5,500 ตัว และมีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ให้ความสนใจจัดจำหน่าย วินโดว์ โฟน 7 เพิ่มขึ้นทั่วโลกเป็น 60 เจ้าแล้ว

สุดท้ายในส่วนของยอดดาวน์โหลดเว็บบราวเซอร์ตัวสำคัญจากไมโครซอฟท์อย่าง Internet Explorer 9 Beta ที่ไมโครซอฟท์พยายามผลักดันเรื่องประสิทธิภาพและความเสถียรให้สูงขึ้นก็สามารถทำยอดคลิกดาวน์โหลดได้ 20 ล้านครั้งในปัจจุบัน
Posted ImagePosted Image




Posted Image
0

Page 1 of 1
  • You cannot start a new topic
  • You cannot reply to this topic

1 User(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users