[hs9ylb]

แพนด้า บิสซิเนส โซลูชั่น เปิดบริการใหม่ "แพนด้า คลาวด์ แอนตี้ไวรัส" เจาะกลุ่มเอสเอ็มอีและผู้ใช้ที่ต้องการปกป้องข้อมูล ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง...

กระแส "คลาวด์ คอมพิวติ้ง" ถือเป็น 1 ในเทคโนโลยีที่ถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับความนิยมและกลายเป็นเทรนด์ฮอตฮิตในปี 2011 นี้ ภายในมหกรรมเด็กเล่นเกม หรือ Thailand Game Show (TGS) 2011 ครั้งที่ผ่านมา บริษัท แพนด้า บิสซิเนส โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการแอนตี้ไวรัสแบรนด์ "แพนด้า" ก็ได้เลือกเปิดตัวบริการล่าสุด แพนด้า คลาวด์ แอนตี้ไวรัส (Panda Cloud AntiVirus) ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขัน StarCraft II TGS2011 Chmapionship เพื่อแสดงศักยภาพในการให้บริการแอนตี้ไวรัสบนระบบคลาวด์ที่ไม่กินทรัพยากรบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ จากคำบอกเล่าของ นายเอกรัตน์ เจริญพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ที่ได้แนะนำและเปิดเผยรายละเอียดบริการแพนด้า คลาวด์ แอนตี้ไวรัส เอาไว้อย่างน่าสนใจ...

IT Digest : รายละเอียดบนคลาวด์
เอกรัตน์ : บริการล่าสุดจากแพนด้า ซีเคียวริตี้ คือ คลาวด์ ซิเคียว เซอร์วิส โดยส่วนหนึ่งใช้โซลูชันของแพนด้า คลาวด์ แอนตี้ไวรัส เพื่อให้บริการดังกล่าว ถือเป็นการนำซิเคียวริตี้ระดับเอนเตอร์ไพร์ซมาให้คนธรรมดาได้ใช้ ในอดีตองค์กรที่จะใช้เทคโนโลยีลักษณะดังกล่าวได้นั้น ต้องมีเน็ตเวิร์กเป็นของตนเอง

สิ่งที่แตกต่างระหว่างระบบซิเคียวริตี้ของเอนเตอร์ไพร์ซและผู้ใช้ทั่วไป คือ ในองค์กรไม่ได้ต้องการเพียงแอนตี้ไวรัส แต่ยังมี Firewall และฝ่ายไอทีคอยทำหน้าที่ติดตามและตรวจตราระบบ ซึ่งเทคโนโลยีคลาวด์ทำให้เสมือนทุกคนอยู่บนเน็ตเวิร์กเดียวกัน เราจึงสามารถให้บริการลูกค้าทุกคนได้ เนื่องจากเห็นการโจมตีหรือการเคลื่อนไหวของไวรัส มัลแวร์ หรือแฮคเกอร์ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าได้ ทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที เป็นความพิเศษที่มากกว่าแอนตี้ไวรัสทั่วไป เปรียบเหมือนบริษัทยามที่ให้ความปลอดภัยแก่คอมพิวเตอร์

IT Digest : อะไรคือจุดเด่นของแพนด้า คลาวด์ แอนตี้ไวรัส
เอกรัตน์ : แพนด้า คลาวด์ แอนตี้ไวรัส คือบริการด้านหนึ่งของการรักษาความปลอดภัยในคอมพิวเตอร์ เรามีเทคโนโลยีที่รายอื่นยังไม่มี ระบบไม่มีทางล่ม มีผู้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้คอมพิวเตอร์ของลูกค้า แตกต่างจากแอนตี้ไวรัสทั่วไปที่เมื่อติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ก็จะใช้กำลังของเครื่องคอมพิวเตอร์ในการดูแลระบบ ขณะที่คลาวด์ฯ ช่วยให้ศูนย์ทราบรายละเอียดและยังสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ ส่วนความแตกต่างในการเก็บค่าบริการเป็นรายเดือนนั้น เชื่อว่าไม่เป็นปัญหา บริษัทฯ เตรียมสร้างช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ด้วยโครงสร้างระบบพรีเพด (เติมเงิน) เหมือนการเติมเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเกมออนไลน์

IT Digest : ตั้งความคาดหวังในการบริการคลาวด์ แอนตี้ไวรัส ไว้อย่างไร
เอกรัตน์ : บริการดังกล่าวไม่ได้มีเพื่อทดแทนซอฟต์แวร์กล่อง เราเชื่อว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการแตกต่างกัน กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ไม่มีฝ่ายไอทีในองค์กร และผู้ใช้ทั่วไปที่มีข้อมูลสำคัญภายในคอมพิวเตอร์ รวมถึงผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีทักษะเกี่ยวกับการดูแลและปกป้องข้อมูลในคอมพิวเตอร์

IT Digest : การสมัครใช้บริการแพนด้า คลาวด์ แอนตี้ไวรัส มีขั้นตอนอย่างไร
เอกรัตน์ : ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับพาทเนอร์ ทั้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและร้านค้าทั่วไป สำหรับขั้นตอนการสมัครใช้งานนั้น เราต้องการแค่อีเมล์และเบอร์ติดต่อลูกค้า เพื่อส่งซอฟต์แวร์ผ่านทางอีเมล์ซึ่งจะใช้กระบวนการติดตั้งทั้งสิ้นประมาณ 3-5 นาที จากนั้นระบบจะทราบและบันทึกทันทีว่ามีลูกค้าเพิ่มเข้ามา โดยเราคิดค่าบริการเป็นรายเดือนๆ ละ 89 บาทต่อเครื่อง หากลูกค้าไม่พอใจก็สามารถยกเลิกบริการได้ โดยลูกค้าจะได้รับรายงานรายละเอียดต่างๆ ประจำสัปดาห์ผ่านอีเมล์

IT Digest : พฤติกรรมการใช้งานแอนตี้ไวรัสของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ชาวไทยเป็นอย่างไร
เอกรัตน์ : โดยส่วนตัวมองปัญหาการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ว่าไม่ได้เกิดจากการไม่ยินยอมเสียเงินให้เจ้าของลิขสิทธิ์ แต่มีสาเหตุจากการเกิดปัญหาหลังการใช้งาน เชื่อว่าลูกค้าเต็มใจจ่ายเงินให้กับบริการที่ตนพึงพอใจ เพราะซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์และซอฟต์แวร์เถื่อนในปัจจุบันต่างไม่มีบริการหลังการขายหรือการดูแล เมื่อซืื้อโปรแกรมมาแล้วพบปัญหาหรือมีปัญหาในการติดตั้ง การใช้งาน ลูกค้าก็ไม่สามารถสอบถามจากผู้ให้บริการได้ กรณีที่พบทั่วไปคือการเตือนและกำจัดไวรัส แต่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ไม่ได้ต้องการแค่คุณสมบัติเท่านั้น ยังรวมถึงการแก้ไขหรือซ่อมแซมข้อมูลที่เสียหายจากไวรัสหรือมัลแวร์ด้วย โดยบริการคลาวด์ของแพนด้าเน้นบริการหลังการขาย ด้วยทีมคอลล์เซ็นเตอร์ที่พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน และทีมเน็ตเวิร์ก มอนิเตอร์ คอยติดตามสถานะและการโจมตีของไวรัส แม้พฤติกรรมผู้ใช้คอมพิวเตอร์กว่า 80-90% เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ติดไวรัส เชื่อว่าหากผู้ใช้ได้ทราบรายละเอียดของปัญหาที่เกิดจากการกระทำของตน ก็อาจทำให้ลดความเสี่ยงได้

IT Digest : ขณะนี้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปมีระดับความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลเพียงใด
เอกรัตน์ : หากแบ่งผู้ใช้ทั่วไปจะสามารถแบ่งได้หลายระดับ เราจึงจำแนกจากผู้ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลอย่างแท้จริง เพราะบางครั้งคอมพิวเตอร์หายยังไม่เสียดายเท่าข้อมูลพัง สิ่งที่มีคุณค่าต่อธุรกิจอย่างแท้จริงคือข้อมูล ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีแอนตี้ไวรัสหรือบริการช่วยดูแลข้อมูล

IT Digest : อยากฝากอะไรถึงผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์
เอกรัตน์ : ความเสียหายจากการโจมตีของไวรัสเกิดจากการป้องกันตัวที่ดี ค่าบริการเดือนละ 89 บาท เชื่อว่ามีความคุ้มค่าและเป็นประโยชน์กับสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับอย่างมาก เราเสียเงินให้กับสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตมากกว่านี้ ปัจจุบัน ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่างก็ใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าเป็นความเสี่ยง เพราะแฮคเกอร์หรือการขโมยข้อมูลด้วยไวรัสในปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจ ไม่ใช่เพียงการกระทำด้วยความคึกคะนองหรือต้องการแสดงฝีมือทางคอมพิวเตอร์อีกต่อไป ขณะเดียวกันสิ่งเหล่านี้ก็กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จึงควรอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีความรู้ความเข้าใจ

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ