CeeFanClub.com: " อายไลเนอร์ผสมน้ำมันเครื่องเสี่ยงมะเร็ง " - CeeFanClub.com

Jump to content

Page 1 of 1
  • You cannot start a new topic
  • You cannot reply to this topic

" อายไลเนอร์ผสมน้ำมันเครื่องเสี่ยงมะเร็ง " Rate Topic: -----

#1 User is offline   hs9ylb 

  • Advanced Member
  • Icon
  • Group: Members
  • Posts: 250
  • Joined: 28-September 10
  • LocationSongkhla , Thailand

Posted 10 February 2011 - 04:35 PM

Posted Image


อย.ชี้อายไลเนอร์ผสมน้ำมันเครื่องอันตราย เสี่ยงเกิดมะเร็ง เร่งส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจทั่วประเทศ หากพบผสมสารต้องห้าม ฟันทั้งผู้ผลิต-ผู้จำหน่าย โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเผยเลือกซื้ออายไลเนอร์ต้องดูมาตรฐาน อย.เป็นหลัก

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเตือนวัยรุ่นที่เลียนแบบดาราเกาหลีและญี่ปุ่น ด้วยการใส่คอนแทกเลนส์ตาโต หรือบิ๊กอายส์ ที่มีหลายสี หลายขนาด และหลายรูปแบบ เสี่ยงที่จะติดเชื้อจนทำให้ตาบอดภายใน 2 วัน และอาจทำให้ติดเชื้อเอดส์ได้หากนำไปแลกกับเพื่อนในการใช้งาน ทั้งนี้ไม่เพียงแต่คอนแทกเลนส์เท่านั้นที่กำลังเป็นที่นิยม พบว่าการเขียนขอบตาด้วยอายไลเนอร์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่วัยรุ่นไทยให้ความนิยม ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ระบุว่าอายไลเนอร์บางยี่ห้อที่วางขายตามตลาดนัดหรือรถเร่มีส่วนผสมของน้ำมันเครื่องนั้น

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังไม่มีการตรวจพบว่าอายไลเนอร์ที่วางจำหน่ายในพื้นที่บางแห่งมีการผสมน้ำมันเครื่องจริงหรือไม่ อาจเป็นน้ำมันชนิดอื่นก็เป็นได้ แต่หากอายไลเนอร์บางยี่ห้อมีส่วนผสมของน้ำมันเครื่องจริง ก็จะอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนัง ในระยะสั้นอาจทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง แต่หากมีการใช้ในระยะยาวจะทำให้เกิดโรคผิวหนัง และอันตรายถึงขั้นเป็นมะเร็ง

เลขาธิการ อย.กล่าวอีกว่า อายไลเนอร์ไม่ได้เป็นเครื่องสำอางที่ต้องควบคุมพิเศษ ในการผลิตหรือนำเข้าจึงไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อ อย. อย่างไรก็ตาม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกสุ่มเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จากแหล่งจำหน่ายทั่วประเทศ ก่อนส่งให้กรมวิทยศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบว่ามีการผสมสารเคมีที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางหรือไม่ คาดว่าจะรู้ผลภายใน 1 สัปดาห์ หากพบผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใดใช้สารต้องห้ามเป็นส่วนประกอบจะดำเนินการอายัดผลิตภัณฑ์และทำลายทิ้งต่อไป ในขณะที่ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายจะมีความผิดฐานผลิตเพื่อจำหน่ายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมกันนี้ น.ส.สิริยส ยังฝากเตือนสาวรุ่นใหม่ที่มักจะทาอายไลเนอร์จนเข้าไปข้างในดวงตา ด้วยเห็นว่าการทาอายไลเนอร์แบบนี้ทำให้ดวงตาดูโดดเด่นและสวยกว่าเดิมหลายเท่านั้นว่า การทาอายไลเนอร์แบบนั้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวรอบวงตาได้ เนื่องจากบริเวณดวงตามีต่อมไขมันอยู่ หากไปโดนบ่อยครั้งทั้งจากการทาและการล้างเครื่องสำอาง อาจจะทำให้ตาอักเสบได้ ที่สำคัญหากรู้สึกระคายเคือง คัน หรือบวม บริเวณดวงตาเมื่อไร ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที

ขณะที่แม่ค้าสาวผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ซึ่งเคยขายเครื่องสำอางมาก่อน เผยว่า แหล่งที่ตนไปรับสินค้านั้นคือตลาดแถวดอนเมือง ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ในการรับเครื่องสำอาง เครื่องสำอางก็จะมีหลายเกรด เริ่มต้นตั้งแต่ราคา 10-20 บาท จนถึงราคา 100-200 บาทเป็นต้นไป ก็จะมีตั้งแต่เครื่องสำอางที่ตั้งชื่อขึ้นมาเองไปจนถึงเครื่องสำอางที่ก๊อบปี้แบรนด์ดังๆ ในช็อป อย่าง คลีนิกข์ นาร์ส แม็ค ฯลฯ ซึ่งตลาดดอนเมือง หากเป็นคนแปลกหน้าเข้าไป เขาจะไม่ปล่อยเครื่องสำอางที่ก๊อบปี้แบรนด์ดัง เพราะว่าไม่อยากเสี่ยงโดนจับ เวลารับมา ก็จะมาขายแล้วแต่ราคาต้นทุนที่รับมา อย่างถ้ารับมา 10-20 บาท ก็จะขายแบบทุกชิ้น 50 บาท หรือราคา 89 บาทบ้าง

ส่วนเรื่องวัตถุดิบถ้าเกรดถูกๆ หน่อย อย่าง มาสคาร่า ก็จะทำมาจากน้ำมันเครื่องที่ใช้กับรถ ที่รู้เพราะเคยถามจากพ่อค้า แต่ถ้าเป็นบลัชออน (ปัดแก้ม) ก็จะใช้สารปรอทและผสมสี ส่วนเกรดที่ดีๆ ขึ้นมา จำไม่ได้เหมือนกันว่าใช้วัตถุดิบจากอะไร แต่เป็นวัตถุที่ไม่น่านำมาใช้กับคนได้ ซึ่งก็จะมีขายตามตลาดนัดทั่วไป แต่บางร้านก็จะมีทั้งของก๊อบปี้และของแท้ ถามว่าจะดูยังไงว่าเป็นของแท้ ถ้าคนที่ใช้บ่อยๆ น่าจะรู้ อย่างเครื่องสำอางนาร์ส ที่เป็นบลัชออน ถ้าของก็อปปี้ สีจะไม่ค่อยติด ของแท้สีจะติดทนกว่า และตรงด้านหลังที่เป็นเบอร์เครื่องสำอางจะเป็นตัวนูน


ที่มา : health.giggog

Posted Image Posted Image

Posted Image
0

Page 1 of 1
  • You cannot start a new topic
  • You cannot reply to this topic

1 User(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users