[Admin]

คนดังนั่งเขียน:
เฝ้าระวัง...ไอที เป็นพิษ !!!
ไทยรัฐออนไลน์ พุธที่ 4 ม.ค. 2555



ซี ชอบเรียกปีนี้ว่า พศ.2555 เพราะรู้สึกว่ามันจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะและเรื่องดีๆค่ะ พอพูดว่า 2012 จะนึกถึงหนังโลกแตกทุกที ตอนนี้ซียังไม่ขอด่วนสรุปว่า ไอทีอะไรจะมาจนกว่าจะได้เห็นในงาน CES 2012 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าค่ะ เดี๋ยวรายงานสรุป ให้ทีหลังดีกว่า

...มากไปหรือเปล่า?

เข้าเรื่อง 2012 ปีที่เราต้องเฝ้าระวังไอที...เป็นพิษ
พิษจากแท็บเล็ต และสารพัดอุปกรณ์จิ้มจอ

ขอเรียนตามตรงว่า ซีเป็นทั้งเหยื่อ และ Watchdog ที่คอยเฝ้าระวังภัยไอทีให้ด้วย เพราะมันติดจริงๆค่ะ ของพวกนี้ ยิ่งเล่นยิ่งมันส์ ยิ่งติด ของยอดฮิตอย่างอุปกรณ์จิ้มจออย่างไอแพด เด็กที่ไหนเห็นเป็นเล่นจนแบตหมดทุกราย หลังๆ ซีเนี่ยใจแคบแทบไม่ลงโปรแกรมเกมส์เลย เพราะกลัวน้องๆ จะเห็นแล้วเล่นไม่หยุด

วุ้นในตาเสื่อมจริงหรือ?

คุณ คงคุ้นกับคำว่า “เล่นบีบีแล้ว นิ้วลอค” “หรืออาการประเภทปวดหลัง ปวดต้นคอ”ไม่ทราบสาเหตุ ต่อไปคุณอาจเริ่มได้ยิน โรค “วุ้นในตาเสื่อม”บ่อยขึ้น โรคนี้ถ้าจะให้ดีอาจคลิ้กลิงค์ หรือหาใน Google ดูให้ละเอียด ถ้าขี้เกียจซีสรุปให้ ว่า มันเป็นโรคที่มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ ที่ผ่านมาใช้สายตาทั้งชีวิตมามาก หรือไม่ก็เป็น ในคนที่ใช้สายตาเยอะๆกับพวกจอคอมพิวเตอร์ ...แน่นอน เมื่อตาทำงานหนักเจอรังสี สุดพิศวงที่ธรรมชาติไม่เคยสร้าง รับเข้ามาเยอะๆ มันก็เสื่อมสภาพ

พิษกับตาแต่หมอยังไม่กล้าฟันธง !!!

อาการ คือ “เหมือนเห็นแมลงวิ่งไปมาอยู่ในตา”แต่คนอื่นที่มองตาอยู่ ไม่เห็นกับเราด้วย น่าสงสารมากเพราะเป็นโรคที่รักษาไม่หายค่ะ และ เขียนมาถึงตอนนี้ก็กังวลแทนทุกท่านที่ติดอุปกรณ์พกพาว่า รุ่นหลังอย่างเรา ที่ถนัดนักจะเริ่มเป็นกันมากขึ้นเพราะจ้องกัน เล่นกันแทบทั้งวัน ผละจากจอคอม ก็มองมือถือ ผละจากมือถือจอชัดๆใหญ่ๆ ก็มาหาอะไรดูในแท็บเล็ต ...หรือไม่จริงคะ

โรคนี้ ซีเริ่มเจอเพื่อนในวงการไอที วัย 20 กว่าหลายคน ถึง 30 ต้นๆ ที่มีอาการโรควุ้นในตาเสื่อม ส่วนมากเป็นกลุ่ม Programmer ที่ต้องจ้องคอมนานๆ เพื่อนคนนึงเล่าว่า “หมอไม่ฟันธงด้วยซ้ำว่าเป็นเพราะจ้องจอคอมพ์...แต่เราว่าเกี่ยว แน่นอน”

ซี เคยมีโอกาส สัมภาษณ์ คุณหมออาวุโส จากรพ.กรุงเทพ ว่าทำไมแพทย์บางคนไม่ฟันธงไปเลย ผู้ปกครองจะได้ห้ามลูกๆให้เล่นไปแต่พอเหมาะว่า ควรเล่นได้เท่าไหร่มีผลต่อสายตายังไง คุณหมอตอบว่า “ด้วยจรรยาบรรณแพทย์ ในวิชาชีพนี้ ต้องพิสูจน์สมมติฐานนี้ซ้ำๆมากกว่า 100 ครั้งแล้วผลคงที่ ถึงจะเรียกว่า...เป็นเพราะสิ่งนั้น ที่ทำให้เกิดอาการโรคนี้” แต่คิดดูนะคะ รอให้ “พิสูจน์สิ่งนั้นเป็น100ครั้ง แล้วเด็กเล่นไปแล้วเป็น 100วันแบบหน้าชิดติดจอ แทบจะกระโดดลงไปในเกมอยู่แล้ว ตามันจะเสียไปแล้วมากแค่ไหนกัน...?”

“กันไว้ดีกว่าแก้...แม่อาจลืมห้าม”

ซี ไม่ขอฟันธงค่ะ เพราะซีก็ทำหน้าที่เฝ้าระวังและ ได้แต่เขียนเตือนไว้ว่า จะเกิดผลอะไรได้บ้างกับตาของเราทั้งหลาย ที่ต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นอวัยวะชิ้นนึงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ซีแค่คิดย้อนกลับไปสมัย ม.2ว่า ตอนนั้นขนาดคอมพิวเตอร์ที่จอใหญ่กว่าแท็บเล็ต นิดหน่อย จออ้วนๆ เรายังเอา Filter ที่คนซื้อกระจกฟิล์มกันรังสี มาวางซ้อนจอเอาไว้เลย กลัวตาเสีย หรือ ย้อนไปเด็กอีกหน่อยตอนเรานั่งดูทีวี แม่ต้องตะโกนเตือน “อย่านั่งหน้าจอทีวีใกล้ๆเดี๋ยวตาเสีย”เลย

จะมีใครรับประกันได้มั้ยว่า Tablet หรือ Smartphone ที่ไฮเทคที่สุด คนฮิตเยอะที่สุด บางสุด จอชัดที่สุด จะไม่ส่งผลร้ายอะไรกับดวงตาของเราเลย...ไม่มีใครเคยฟันธงเลยนะคะ เรื่องนี้

ดังนั้น...ดูแล ตัวเองและคนรอบข้างให้ดี ให้ใช้ไอทีให้เหมาะสมนะคะ ด้วยความเป็นห่วงหลายๆจากซีค่า

สวัสซีปีใหม่นะคะ






ซี ฉัตรปวีณ์

โดย: ซี ฉัตรปวีณ์

4 มกราคม 2555, 05:30 น.

http://www.thairath....ent/tech/227794

[DekindyArm]

เช่นกันครับ ดูแลสุขภาพด้วยนครับ